นักลงทุนสัมพันธ์

1.จัดจำหน่ายสายสัญญาณ (DISTRIBUTION BUSINESS)

ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯโดยบริษัทฯเป็นผู้นำเข้า (Importer) และผู้จัดจำหน่าย (Distributor) สายสัญญาณสื่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม (abling) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยจัดจำหน่ายสินค้ายี่ห้อชั้นนำอันดับต้นๆของโลก ได้แก่ LINKและAMP และสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ได้แก่ 19”GERMANY EXPORT RACK อีกทั้งยังมีสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมและครบวงจร ได้แก่ สายLAN สายไฟเบอร์ออฟติก สายโทรศัพท์ สายโคแอกเชียล กล้องวงจรปิด (CCTV) เครื่องมือเข้าหัวและทดสอบอุปกรณ์แปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า (Media Converter) และขั้วต่อสายทุกชนิดและอุปกรณ์การติดตั้งที่เกี่ยวข้องกับสายสัญญาณทุกชนิด โดยปัจจุบันบริษัทฯเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจนี้โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย

2. วิศวกรรมโครงการ (ENGINEERING BUSINESS)

เป็นธุรกิจรับออกแบบก่อสร้างและ/หรือติดตั้งงานโครงการไม่ว่าจะเป็น สายเคเบิ้ลใต้น้ำ (Submarine Cable) ที่เป็นสายไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้าสื่อผสม ระบบสายส่งไฟฟ้า ( Transmission Line) สายไฟฟ้าใต้ดิน (Underground Cable) สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) และงานวิศวกรรมอื่นๆที่ผ่านมาบริษัทฯมุ่งเน้นเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการความเชี่ยวชาญในการติดตั้งสูงโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะไม่รับงานทับซ้อนกับงานของลูกค้าธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ทั้งนี้ บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ก่อสร้างและติดตั้งในโครงการวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเล (Submarine Cable) และวางสายเคเบิ้ลใต้ดิน (Underground Cable) โดยมีผลงานก่อสร้างสายไฟฟ้าแรงสูงใต้ทะเล (Submarine Cable) ชนิดสื่อผสมไฟฟ้าแรงสูงและสื่อสาร เพื่อจ่ายระบบไฟฟ้าและสื่อสารให้แก่ เกาะสีชัง เกาะล้าน จ.ชลบุรี เกาะปูยู เกาะยาว จ.สตูล และเกาะมุกด์ เกาะสุกร เกาะลิบง จ.ตรัง ทั้งนี้ ในปี 2557 และ 2558 ที่ผ่านมา

บริษัทฯได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการจ้างเหมาก่อสร้างพร้อมติดตั้งอุปกรณ์สายส่งแรงสูง 115 เควี อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โครงการจ้างเหมาก่อสร้างเคเบิ้ลใต้น้ำระบบ 22 เควี ไปยังเกาะกูด เกาะหมาก จังหวัดตราด ซึ่งมีมูลค่างาน 1,150 ล้านบาท และงานจ้างเหมาก่อสร้างเคเบิ้ลใต้น้ำระบบ 115 เควี ไปยังเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีมูลค่างาน 800 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธุรกิจวิศวกรรมโครงการไม่เคยหยุดพัฒนาและยังคงเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จในอนาคต 

โดยบริษัทฯได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนถ่ายธุรกิจดังกล่าวข้างต้นไปยังบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อให้ภาพการประกอบธุรกิจในแต่ละกลุ่มธุรกิจมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ได้ดำเนินงานโดยการรับจ้างช่วงต่อจากบริษัทฯ เพื่อให้มีประวัติการดำเนินงานที่เพียงพอที่จะสามารถเข้าประมูลงานได้ด้วยตนเองในอนาคต

3.โทรคมนาคม (TELECOM BUSINESS)

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดจากการที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงมากว่า 30 ปี และมีประสบการณ์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงขนาดใหญ่ให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยบริษัทฯ มีความประสงค์ที่จะขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว 

โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเอง เลขที่ 3ก/55/001 จากสำนักงานคณะกรรมการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งปัจจุบันอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ได้ทำการก่อสร้างโครงข่าย Interlink Fiber Optic Network ไปทั่วเขตกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงไฟเบอร์ออฟติกผ่านโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงของ Interlink ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย มีความปลอดภัยสูงสุดและทรงประสิทธิภาพที่สุด โดยมีเส้นทางหลักผ่านตามเส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย และเพื่อตอบโจทย์ความครบถ้วนของธุรกิจโทรคมนาคมที่กลุ่มมีโครงข่าย Interlink Fiber Optic Network ครอบคลุมไปทั่วทุกแห่งทั่วประเทศไทยและทุกพื้นที่ จึงได้ลงทุนก่อสร้าง Interlink Data Center เพื่อเสริมธุรกิจโทรคมนาคมเพื่อรองรับโลกของการสื่อสารยุคใหม่ของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และอินเตอร์เน็ตเพื่อทุกสิ่ง (Internet of Things) และสร้างความครบวงจรทั้ง Data Connectivity และ Data Center อีกด้วย